วันพฤหัสบดีที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2556

Success Story : ความฝัน ชีวิต ที่ลิขิตด้วยตัวเอง

Success Story : ความฝัน ชีวิต ที่ลิขิตด้วยตัวเอง

Pic_357310
มีคนกล่าวไว้ เราสามารถแบ่งผู้คนได้เป็น 2 ประเภท หนึ่งคือคนที่ก้าวข้ามความสำเร็จ สองคือคนที่จมอยู่กับความล้มเหลว เมื่อพิจารณาคนทั้งสองประเภท พวกเขาล้วนมีความปรารถนาไม่ต่างกัน ทุกคนมี “ความฝัน” ที่อยากให้เป็นจริง ทุกคนมี “เป้าหมาย” ที่ต้องไปให้ถึง ทุกคนมี “ความสำเร็จ” ที่อยากไขว่คว้า อย่างไรก็ตามสิ่งที่แบ่งแยกพวกเขาให้ต่างกัน คือ ความกล้าที่จะคิดต่างและทำอย่างสร้างสรรค์ ตลอดจนความอดทน มุ่งมั่น ทำจนสำเร็จ

คนที่ประสบความสำเร็จในชีวิตมีมากมาย เรื่องราวของผู้ชายคนหนึ่งที่คุณจะได้รู้จักเขาในพื้นที่กระดาษนี้ เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่น่าสนใจมากๆ หนุ่มวิศกรเมืองหลวงที่หนีความศิวิไลซ์เลือกใช้ชีวิตอยู่กับธรรมชาติริมเขา ป่าไม้ และทิ้งหมวกวิศกรมาถือจอบขุดดินเพาะฟาร์มเห็ด 17 ปี!

ธนากิจ ชินกิจการ เจ้าของโฮมสเตย์และฟาร์มเห็ดบ้านหัวน้ำ ชื่อนี้เป็นที่รู้จักมากขึ้นเมื่อเรื่องราวของเขาได้ถูกถ่ายทอดเป็นภาพยนตร์โฆษณาชิ้นหนึ่ง มีผู้คนเดินทางไปโฮมสเตย์ของเขาเพื่อสัมผัสบรรยากาศธรรมชาติและอยากรู้จักตัวตนของเขา แน่นอน Marketeer เป็นหนึ่งในนั้น ที่สำคัญเราต้องรู้จักแบบ Exclusive กว่าใครๆ

ความสำเร็จเริ่มต้นที่การไม่ตั้งกรอบความสำเร็จ

Marketeer ลัดฟ้าไปจังหวัดน่าน ท่ามกลางอากาศที่สดชื่น จากสนามบินน่าน เราโดยสารกระบะฟอร์ด เรนเจอร์ลัดเลาะไปตามเส้นทางคดเคี้ยวเพื่อไปต่อที่อำเภอปัว ผ่านทิวทัศน์ธรรมชาติที่สวยงาม ก่อนขึ้นเนินเขาสุดลาดชัน แต่ดูจะไม่เป็นปัญหาเท่าไหร่ ในที่สุดก็เดินทางไปถึงที่หมาย ธนากิจ หรือ “พี่อู้” ยืนต้อนรับอยู่ด้านใน หลังจากทักทายพอหอมปากหอมคอ พระเอกร่างเล็กแต่หัวใจใหญ่อย่างเขาก็ไม่ทำให้เราผิดหวังตั้งแต่ออกตัวประโยคแรก

“คุยเรื่องความสำเร็จน่ะหรือ? ตอบตรงๆ ผมไม่เคยคิดว่าผมประสบความสำเร็จ เพราะเมื่อใดก็ตามที่ผมคิดว่าผมทำอะไรสำเร็จแล้ว ช่วงเวลาที่เรามัวแต่ภาคภูมิใจความสำเร็จ เราอาจจะหยุดพัฒนาหรือชะลอที่จะสร้างสรรค์สิ่งต่างๆ ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ผมจึงเลือกที่จะทำในสิ่งที่ผมอยากจะทำ และทำไปเรื่อยๆ ไม่มีหยุด” การไม่ตั้งกรอบความสำเร็จ คือสิ่งที่เขาบอกเรา

กล้าที่จะฝันและทำอย่างแตกต่าง

เป็นธรรมดาที่ชีวิตคนเรามักต้องมี 2 สิ่งที่ต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่งเสมอ หนึ่งคือสิ่งที่เราต้องทำ หรือสองสิ่งที่เราอยากจะทำ
ธนากิจเองเช่นกัน แม้ตัวเขารู้ดีว่าหัวใจต้องการอะไร แต่ก็ต้องเลือกที่ต้องทำในสิ่งที่ต้องทำก่อน หลังจากที่เรียนจบวิศวะโยธา เขาก็ยึดในสายอาชีพวิศวกรมาโดยตลอด รับเหมาก่อสร้างทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด โดยในช่วงหลังที่เขาเน้นรับงานต่างจังหวัดและมีโอกาสได้ท่องเที่ยวไปที่ต่างๆ มากขึ้น

“ผมทำงานก่อสร้างก็วนเวียนอยู่กับตัวเลข อยู่กับตึกอาคารอากาศร้อนๆ ในตัวเมือง เจอความวุ่นวายเต็มไปหมด ซึ่งมันก็เป็นสิ่งที่คนเราทุกคนต้องเจอและต้องยอมรับผ่านไปให้ได้ ผมเชื่อว่าทุกคนที่ใช้ชีวิตเป็นคนกรุงต่างมีความสุขทุกครั้งที่ได้ไปเที่ยวต่างจังหวัด หลายคนก็มีความฝันที่จะใช้ชีวิตในชนบท บางคนก็ซื้อบ้านพักตากอากาศเก็บไว้ยามพักผ่อน ผมเองก็เหมือนกัน มีความฝันว่าสักวันหนึ่งเราเองก็อยากหนีความวุ่นวายไปใช้ชีวิตที่ที่มีแต่ธรรมชาติป่าเขา เงียบสงบ”

แน่นอน ใครๆ ต่างมีความฝันเช่นนี้ทุกคน ไม่แปลกที่ใครต่อใครจะเฝ้าฝันพรรณนาอยากมีชีวิตบนภูเขาท่ามกลางแมกไม้ธรรมชาติในตอนบั้นปลายชีวิต....แต่ไม่ใช่เขา

“คนส่วนใหญ่มองเรื่องแบบนี้ตอนแก่ แต่ผมไม่อยากรอจนถึงตอนนั้น ในเมื่อเรามองเห็นเป้าหมายความสุขของเราตอนนี้แล้วทำไมถึงไม่รีบไขว่คว้าเอาไว้”

“ผมไม่ใช่นักธุรกิจ ผมเป็นนักผจญภัย”

ค่อยๆ ทำงานจนเก็บเงินได้ก้อนใหญ่ก้อนหนึ่ง เขาก็เริ่มตระเวนหาที่ดินต่างจังหวัด ด้วยพื้นฐานที่เป็นคนชอบลุยๆ ชอบเที่ยวป่าเขา ข้างกายเขาจึงมีรถกระบะคู่ใจไว้ลุยสนามโหดๆ เสมอ หรือไม่เจอทางแคบๆ ก็มีมอเตอร์ไซค์ไว้ลุยซอกแซก เรียกได้ว่าไปไหนก็ได้ไม่มียั่น

“ตอนหลังที่รับงานต่างจังหวัดเยอะขึ้น มันก็เหมือนกับได้สำรวจที่ดินทำเลต่างๆ ไปในตัว ทั้งทำงานทั้งเที่ยวแล้วก็ศึกษาที่ดินไปเรื่อยๆ ก็มีทำเลมากมายที่ไปดูเอง หรือมีคนแนะนำที่สวยๆ แต่เราก็ยังไม่ถูกใจเท่าไหร่ จนวันหนึ่งมีคนแนะนำให้ไปดูที่ดินแปลงนี้ ผมมาเห็นที่นี่แค่แวบแรกก็ตกลงซื้อทันที นอกจากที่สวยแล้ว ผมมีความรู้สึกว่าที่นี่แหละที่เราอยากจะอยู่ตลอดไปไม่ใช่แค่ซื้อมาเก็บไว้เฉยๆ ก็เริ่มซื้อจากที่ราบ 7 ไร่ก่อน ตอนอายุ 30 พอดี”

อายุ 30 คือรอยต่อ Turning Point ครั้งสำคัญ พอได้ที่ดินแล้ว ถ้าเป็นคนอื่นคือยังไม่รู้ว่าจะทำอะไรดีก็อาจจะเก็บไว้ก่อน แต่เขาเดินหน้าเปลี่ยนชีวิตตนเองทันที ตามคอนเซปต์ “ลุยไว้ก่อน” ด้วยความตั้งใจอยากจะใช้ชีวิตที่นี่ให้ได้ จากวิศวกรจึงกลายเป็นเกษตรกรโดยปริยาย โปรเจกต์แรกของเขาเริ่มต้นจากการปลูกข้าว ซึ่งก็ไม่ใช่สิ่งที่เขาถนัด เป็นสิ่งที่เริ่มต้นเรียนรู้ใหม่เช่นกัน เพียงแต่ไม่ได้เรียนทฤษฎี แต่เรียนจากการปฏิบัติโดยตรง และผลลัพธ์คือ…

“ไม่รุ่งครับ (หัวเราะ) คือก็ยอมรับว่าสิ่งที่ผมทำก็ไม่ได้ศึกษาตำรา ซึ่งไม่ใช่เรื่องที่ถูกเลย แต่ผมเป็นคนแบบนี้ คือถ้าอยากทำอะไรก็ต้องลองทำ ผมเชื่อว่าความเจ็บปวดนั่นแหละที่เป็นครูเราดีที่สุด ทำนาไม่รุ่งแต่ผมก็ไม่หยุด หาสาเหตุและแก้ไข ข้อดีอย่างหนึ่งคือผมชอบเรื่องการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ และถึงเรามาอยู่ต่างจังหวัด แต่ก็ไม่ทิ้งเรื่องเทคโนโลยีการสื่อสาร ผมก็เสิร์ชหาข้อมูลผ่านกูเกิลทุกครั้งที่มีปัญหา เรียนรู้ด้วยตนเอง ในที่สุดก็ทำนาได้ผล แม้ไม่ถึงกับกำไรอะไร แต่ก็มีกินได้ไม่ต้องซื้อใคร ที่สำคัญคือมีกำลังใจอยากทำอย่างอื่นต่อไป”

หลังจากนั้นเขาก็มีโปรเจกต์ใหม่ “เพาะฟาร์มเห็ดขาย” ซึ่งก็เหมือนเดิม พระเอกของเราเริ่มต้นจากศูนย์อีกครั้ง เที่ยวเสาะแสวงหาข้อมูลลองผิดลองถูก และเริ่มทำด้วยตัวเอง คราวนี้ดูเหมือนเขาคิดการใหญ่มากขึ้น แผนของเขาคือการเป็นซัพพลายเออร์รายใหญ่ให้กับตลาดเห็ดในภาคกลาง ทว่าก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ด้วยการแข่งขันที่ค่อนข้างสูงและตลาดใหญ่มักบีบราคาที่ไม่คุ้มต่อต้นทุนทั้งการผลิตและขนส่ง ทำให้เขาต้องเปลี่ยนกลยุทธ์จากแมสเป็นพรีเมียม ย่อส่วนจากใหญ่เป็นเล็กลงแต่ควบคุมโปรดักชั่นให้ดียิ่งขึ้นเพื่อแข่งขันได้

“การเรียนรู้และปรับตัวเป็นคีย์ซักเซสของผม แต่ก่อนผมเป็นคนชอบคิดชอบทำอะไรใหญ่ๆ บางครั้งสิ่งที่เราตั้งใจก็ไม่ใช่ว่าจะดีเสมอไป เมื่อเราต้องการอยู่รอดก็จำเป็นที่ต้องปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ อย่างของผมพอทำเรื่องใหญ่ก็มักจะมีปัญหาทุกที (หัวเราะ) ช่วงหลังผมคิดใหม่ ทำช่องทางให้พอดีกับตัวซึ่งก็อยู่รอดและมีความสุขได้ ไม่เครียด ค่อยๆ คิดค่อยๆ ทำไปเรื่อยๆ”

หลังจากที่ธุรกิจฟาร์มเห็ดเริ่มอยู่ตัว เขาก็เริ่มมองหาความท้าทายอื่นๆ ด้วยทำเลที่ตั้งที่สวยงามเป็นโอกาสที่ดีที่จะทำบ้านพัก หรือโฮมสเตย์ คราวนี้จึงได้โอกาสงัดความรู้ด้านวิศวะมาใช้อีกครั้ง ด้วยการออกแบบสไตล์รีสอร์ต มีความเป็น Loft เข้ากับบรรยากาศธรรมชาติ

“ผมทำแบบพอเพียงกับกำลังทุนของตัวเอง ถามว่าทำเพื่ออะไร จริงๆ ผมไม่คิดว่าตัวเองจะร่ำรวยจากการมาอยู่ใช้ชีวิตที่นี่อยู่แล้ว ผมใช้ชีวิตที่นี่มานานก็อยากจะให้คนอื่นได้มาเห็นมาสัมผัสบรรยากาศดีๆ บ้าง ก็เลยลองทำโฮมสเตย์ดู ซึ่งผมก็รู้จักกับกลุ่มก๊วนออกทริปมอเตอร์ไซค์ พวกเขาก็ชอบมาพักผ่อน และที่นี่ค่อนข้างอุดมสมบูรณ์เพราะยังสด ไม่ค่อยเป็นที่รู้จัก ก็เลยเป็นจุดขายเฉพาะกลุ่ม นักท่องเที่ยวที่ชอบความสันโดษ เงียบๆ ก็จะมาที่นี่กันเยอะ และก็มีครัวเล็กๆ รองรับแขก ซึ่งผมชอบทำกาแฟก็อาสาเป็น Barista ด้วยตนเอง (ยิ้ม)”

Work Smart,Gain More

สิ่งที่พี่อู้ ธนากิจบอกกับเรา แม้จะไม่ได้ถ่ายทอดเป็นคำพูด แต่เราก็เห็นได้ด้วยผลงานที่เขาทำ ความฝันที่เขารังสรรค์ขึ้นจะเป็นจริงไม่ได้ถ้าเขาไม่ได้ลงมือทำ เราใช้เวลาเดินพูดคุยสบายๆ กับเขา แม้ว่าจะดูเหน็ดเหนื่อยจากการทำงาน แต่เขาก็ไม่ปริปากเอ่ยคำล้าออกมา ตรงกันข้ามเขาดูมีความสุขและยิ้มชี้ดูสิ่งต่างๆ ที่เขาทำ ชี้ดูเห็ดที่ค่อยๆ ผลิบานด้วยความภาคภูมิใจ

ใช้ชีวิตคนเดียวมาโดยตลอด เหงาบ้างหรือไม่ เขาตอบว่าไม่ พร้อมชี้ให้ดูเพื่อนของเขา...รถกระบะฟอร์ด เรนเจอร์ สีเทาหน้าตาดุดันจอดอยู่ ด้วยรูปร่างที่ใหญ่โตกว่ารถกระบะทั่วไป ดูคล้ายม้าศึกที่กำลังหมอบรอนายบัญชาการ บนรถมีลูกน้องกำลังลำเลียงบรรทุกเห็ดเต็มคันรถ

“เหงาได้อย่างไร นี่ไงเพื่อนผม เพราะเราลุยด้วยกันมาตลอด นี่ก็เตรียมจะลุยกันอีกรอบ” เขายิ้มพร้อมเข้าไปคุมงานสั่งลูกน้องใกล้ชิดขึ้น ด้วยรูปแบบการทำงานจึงทำให้เขาเป็นคนสนใจรถเป็นพิเศษ เราจึงคุยกับเขาเรื่องรถคู่ใจมากขึ้น

“ผมอยู่ที่นี่มาเกือบ 20 ปี รถกับผมนี่เป็นเหมือนกับเพื่อนซี้ ด้วยรูปแบบทั้งชีวิตและงานของผมมันต้องลุยตลอด ที่ผ่านมาผมใช้มาหลายรุ่นมาก พอมาเจอฟอร์ด เรนเจอร์นี่บอกเลยว่า โดนใจจริงๆ เจอห้วยเจอน้ำก็ไม่กลัว ลุยน้ำลึกได้ 80 เซนติเมตร ทุกวันต้องบรรทุกของหนักๆ เต็มคันรถ ฟอร์ด เรนเจอร์นี่บรรทุก 1 ตันก็เอาอยู่แบบสบายๆ กลายเป็นเพื่อนใหม่ที่ผมไว้ใจไม่งอแงและพร้อมจะลุยกับผมที่สุด”

Work Smart, Gain More ไม่ใช่แค่แกร่งอย่างเดียว ต้องฉลาดด้วย เขาบอกว่ารถของเขาไม่ใช่แค่พาหนะ แต่เป็นพาร์ตเนอร์ธุรกิจที่สำคัญทีเดียว ทั้งการประหยัดน้ำมันที่เป็นพื้นฐานแรกเรื่องโลจิสติกส์ที่เขายืนยันตั้งแต่ลองใช้กระบะมานี่คือที่สุดแล้ว และเรื่องระบบด้านความปลอดภัย ซึ่งด้วยความแข็งแกร่งที่เหนือกว่า ไม่ว่าจะขึ้นเขาหรือลงห้วยก็ไม่มีปัญหาสำหรับฟอร์ด เรนเจอร์

ฟอร์ด เรนเจอร์ ชนะทุกอุปสรรค

“ผมยกตัวอย่างว่ารถคันนี้มีระบบช่วงล่างและการทรงตัวที่ดี รวมทั้งระบบควบคุมเรื่องความปลอดภัย ฟอร์ดมีระบบล็อกเฟืองท้าย (Limited Slip) สำหรับป้องกันล้อหมุนฟรี ซึ่งจำเป็นมากๆ เวลาขึ้นเขาหรือลงเขา อีกทั้งระบบเบรกป้องกันล้อล็อก (ABS) เพื่อให้เหมาะสมกับสภาพถนนและเส้นทางออฟโรด ไม่ว่าจะเจอทางแบบไหน ลื่นหรือลาดชันแค่ไหน ผมก็ลุยต่อได้”

“ผมมองว่ารถที่ดีแค่แข็งแกร่งอย่างเดียวไม่พอ ต้องฉลาดด้วย ต้องมีฟังก์ชั่นการใช้งานที่ตอบสนองเราได้ ซึ่งผมชอบอีกอย่างคือระบบอัตโนมัติต่างๆ เช่น ไฟหน้าอัตโนมัติในยามกลางคืน หรือระบบปัดน้ำฝนอัตโนมัติตอนฝนตก คือมันเป็นรายละเอียดเล็กน้อยๆ ที่ทำให้เราสะดวกขึ้น มีความสุขเหมือนอยู่กับเพื่อนที่รู้ใจ รวมๆ แล้วประทับใจมากๆ ถ้าใครถามผม ผมก็จะแนะนำรถฟอร์ดให้ใช้ จากประสบการณ์จริงเราประทับใจ”       

“ผมไม่รู้สึกว่าตัวเองเป็นนักธุรกิจ ผมเป็นนักผจญภัยมากกว่า ผมมีความสุขเสมอที่ได้ก้าวข้ามชนะทุกอุปสรรค และฟอร์ด เรนเจอร์ก็ช่วยให้ผมก้าวข้ามไปได้ง่ายขึ้น เราจึงเป็นคู่หูกันได้”

ท่ามกลางธรรมชาติที่สวยงาม ที่พักที่แสนสบายกับเมนูเห็ดหลากหลายที่สดอร่อย นับเป็นอีกทริปที่พิเศษสำหรับ Marketeer พี่อู้
ของเราอาสาพาเราไปเที่ยวจังหวัดน่าน ที่สำคัญให้เราได้ลองสัมผัสสมรรถนะการลงเขาของฟอร์ด เรนเจอร์ พร้อมกับลีลาการเข้าโค้งลาดชัน เห็นเจ้าตัวขับอย่างสนุกสนานระหว่างที่พาเราเที่ยวชมจังหวัดน่าน ไม่แปลกเลยว่าทำไมเขาจึงมีความสุขอยู่ที่นี่และตั้งใจอยู่ที่นี่ไปตลอด

นี่สิถึงเรียกว่า  Work Smart, Gain More ฟอร์ด เรนเจอร์ ชนะทุกอุปสรรค

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น